ทัพมวยสากลทีมชาติไทยทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย โดย นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคมฯและกรรมการบริหาร รวมไปถึงทีมงานสตาฟโค้ชได้ตั้งเป้าเอาไว้ว่า จะคว้าโควตาโอลิมปิก2020 โซนเอเชีย-โอเชียเนีย 4-5 รุ่น ในการแข่งขันที่กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน ระหว่างวันที่ 3- 11 มี.ค.2563

สามารถคว้าโควตา มาได้ทั้งหมด 4 รุ่น ที่สำคัญมี 2 นักชกดาวรุ่ง ชาย-หญิง ที่มาจากชุดเยาวชน ผงาดคว้าโควตา จาก นางสาวใบสน มณีก้อน รุ่น 69 กก. หญิง วัย 18 ปี จากจังหวัดกาฬสินธุ์ กับ นายธิติสรรค์ ปั้นโหมด รุ่น 52 กก. วัย 19 ปี จาก จังหวัดพิจิตร ส่วนอีก 2 รุ่นได้มาจากนักชกประสบการณ์สูง จ.ส.อ.ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี วัย 35 ปี รุ่น 57 กก.จากจังหวัดสระแก้ว ที่คว้าโควตาโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 3 หลังจากได้ไปร่วมแข่งขัน ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปี 2012 กับ เมืองริโอ เดอจาโร ประเทศบราซิล ปี 2016 และ อส.ทพ. สุดาพร สีสอนดี นักชกหญิงจากจังหวัดอุดร รุ่น 60 กก. โดยที่ 3 นักชก สุดาพร,ใบสน,ธิติสรรค์ นั้นคว้าโควตาได้เป็นครั้งแรก

สำหรับการแข่งขันโอลิมปิก 2020 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย-โอเชียเนีย ที่ประเทศจอร์แดน นับได้ว่าเป็นก้าวแรก ของนักชกที่ได้โควตาไปชิงเหรียญที่กรุงโตเกียว โดยการคัดเลือกในครั้งแรกนี้ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยได้ส่งนักชกไปร่วมแข่งขันทั้งหมด 11 รุ่น เป็นนักชกชาย 6 รุ่น ได้โควตามา 2 รุ่น ส่วนนักชกหญิง 5 รุ่น ได้โควตามา 2 รุ่น โดยนักชกที่พลาดหวัง ในส่วนของทีมชาย รุ่น 63 กก. นายอธิชัย เพิ่มทรัพย์, รุ่น69 กก.ร.ท.วุฒิชัย มาสุข,รุ่น 75 กก. นายวีระพล จงจอหอ, รุ่น 81 กก.นายจักรพงษ์ ยมโครต ทีมหญิง รุ่น 51 กก. จุฑามาศ จิตรพงษ์,รุ่น 57 กก. นิลาวัลย์ เตชะสืบ,รุ่น 75 กก. พรนิภา ชูตรี

โดยสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายในการแข่งขันรอบคัดเลือกโอลิมปิก ที่จะจัดในช่วงเดือน พ.ค. ปี 2564 เอาไว้อีก 3-4 รุ่น ซี่ง เป็นการนำเอานักชกจากทุกทวีปที่พลาดหวังในการชกในเลคแรก รวมถึงนักชกตัวสำรองที่ชาติต่าง ๆ เตรียมไว้ มาดวลกำปั้นกันเพื่อคว้าโควตาครั้งสุดท้าย เพื่อไปแข่งขันมวยสากลในกีฬาโอลิมปิก 2020 ณ กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น ในปี 2564