สำหรับการแข่งขัน Thailand National Boxing Series 1 วันที่สอง เริ่มการแข่งขันตั้งแต่เวลา 12.30 น. คู่เอก รุ่น 57 กก. ฉัตรชัยเดชา บุตรดี นักชกทีมชาติไทยชุด A ที่ได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น โชว์ฟอร์มสมราคา เป็นฝ่ายเดินหน้าตะบัน "เจ้าตี๋" ศราวุธ สุขเทศ นักชกทีมชาติไทยรุ่นน้องที่ลงแข่งในนามทีมชาติชุด B อย่างไร้ความปรานี เป็นฝ่ายชนะคะแนน 5-0
หลังการแข่งขันเสร็จสิ้น “เจ้าสด” ฉัตรชัยเดชา บุตรดี เผยว่า "ขอบคุณสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทยที่จัดรายการนี้ขึ้นมา ถือเป็นการเคาะสนิมให้กับตัวเองและนักมวยทีมชาติทั้งชุดใหญ่และชุดเล็กให้มีทัวร์นาเมนต์ได้แข่งขัน ส่วนตัวยังไม่พอใจฟอร์มของตัวเองเท่าไหร่ เพราะร้างเวทีไปนาน แม้จะฝึกซ้อมเป็นประจำอยู่ที่มวกเหล็กก็ตาม เชื่อว่าจะพัฒนาการชกให้ดีกว่านี้ในรอบต่อๆ ไป ส่วนการไปแข่งขันที่เกาะสมุย ต้นเดือน เม.ย.นี้ ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศในทีม เป็นประโยชน์ต่อนักมวยอย่างมาก"
ขณะที่นักชกอีกรุ่นที่น่ากล่าวถึงคือ สมชาย วงศ์สุวรรณ นักชกทีมชาติไทย ที่ลงแข่งในนามทีมชาติไทยชุด A ในรุ่น 63 กก. พบกับ อธิบดี ศรีขาว นักชกจากสโมสรทหารอากาศ ผลปรากฎว่าเพียงแค่ยกที่ 2 สมชายเป็นฝ่ายเดินหน้าตะบันจนคู่ต่อสู้ต้องขอยอมแพ้ งานนี้เรียกความมั่นใจให้เจ้าตัวกลับมาอีกครั้งเพื่อทวงความเป็นหนึ่งในรุ่นนี้!
สำหรับนักมวยรุ่น 69 กก. ที่เป็นความหวังของสมาคมอีกราย คือ พีรภัทธ์ เยียะสูงเนิน ทีมชาติไทยชุด A พบกับ "คาวบอย" บรรณพล พันโนน ลูกชายของสุบรรณ์ พันโนน สต๊าฟโค้ชทีมชาติไทย งานนี้คุณพ่อมาเชียร์ลูกชายอยู่ข้างเวที แต่ก็ไปไม่ถึงดวงดาว เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ต้องกลับไปสอนกันใหม่ ยังมีเวลาสำหรับ "คาวบอย" เพาะอายุยังน้อย
ปิดท้ายที่รุ่นยักษ์ 75 กก. อภิสิทธิ์ ขันโขกเครือ นักชกจอมเก๋าทีมชาติไทย ในนามทีมชาติไทยชุด B พบกับ วีระพล จงจอหอ เจ้าของเหรียญทองแดงยูธโอลิมปิค 2018 ที่อาร์เจนติน่า ที่อยู่ในทีมชาติไทย A ผลปรากฏว่า วีระพล จงจอหอ ไม่เกรงศักดิ์ศรีรุ่นพี่ ตะบันหมัดได้เข้าเป้าจังๆ หลายดอก เป็นฝ่ายชนะคะแนนตามความคาดหมาย สมกับที่เป็นนักกีฬาในโครงการสปอร์ตฮีโร่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย
ขณะที่ผลคู่อื่น รุ่น 49 กก. พงศ์กร ไพโรจน์วอรุฬห์ สโมสรราชนาวี แพ้ ฤทธิอมร แสงสว่าง สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 0-5
ภานุวัฒน์ จันทระ สโมสรทหารอากาศ แพ้คะแนน ธนรัฐ แสงเพชร ทีมชาติไทย A 0-5
รุ่น 52 กก. ศุภกิตต์ คำภา สโมสรราชนาวี แพ้คะแนน สาธิต แก้วเกษม สโมสรทหารอากาศ 1-4
รุ่น 57 กก. วันเฉลิม แซ่หาญ สโมสรราชนาวี ชนะคะแนน สุทธิพงษ์ แหวนนิล สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 5-0
รุ่น 60 กก. พูนธเนศ รอดสุข ทีมชาติไทย A ชนะ RSC ณัฐพล ผาหยาด สโมสรทหารอากาศ ยกที่ 3
รุ่น 60 กก. พละบดี ผลดิลก สโมสรราชนาวี แพ้ RSC ปฎิภาณ แท้สูงเนิน สโมสรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยกที่ 3
ส่วนมวยหญิงมีการประลองหมัดกันหลายคู่ ทั้งทีมชาติไทยชุด A ชุด B และชุด C รวมถึงเยาวชนทีมชาติด้วย ขณะที่ ไฮไลต์ของรายการนี้ คือ 2 นักชกสาวแกร่งที่เพิ่งคว้าตั๋วโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่น ก็ลงแข่งขันด้วย โดยเฉพาะ สุดาพร สีสอนดี รุ่น 60 กก. แม้จะยังไม่ฟิตเต็มร้อย แต่ก็ทำผลงานได้ดี ส่วน ใบสน มณีก้อน รุ่น 69 กก. มีอาการเจ็บหลัง ต้องถอนตัวออกจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย
แฟนมวยที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ย่าน รังสิต ดอนเมือง สายไหม สามารถเข้ามาชมได้ฟรี ไม่มีการเก็บค่าบัตรผ่านประตูแต่อย่างใด!