วันที่29 ต.ค.ที่สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ชั้น15 การกีฬาแห่งประเทศไทย พล.อ.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ อุปนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานการประชุม พร้อมด้วย พล.ท.อุชุกร สาครนาวิน รองเลขาธิการสมาคมฯ และ นายวินัย รอดจ่าย อุปนายกสมาคมฯ ร่วมประชุม โดยที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับ ความคืบหน้าในการเตรียมจัดการแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย หลังได้ประสบปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเตรียมความพร้อมในทุกๆ ด้านตามระเบียบของ ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) และนโยบายของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด
ล่าสุด พล.อ.อ.ระพีพัฒน์ หลาบเลิศบุญ อุปนายกสมาคมสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานที่ประชุมกล่าวว่า หลังจากเปิดรับสมัครมาราว 1 เดือน ได้รับความสนใจจากสโมสรสมาชิก มีทีมที่มาสมัครกว่า 30 ทีม โดยแบ่งเป็นทีมจาก 4 เหล่าทัพ สโมสรกองทัพบก สโมสรราชนาวี สโมสรตำรวจ และ สโมสรทหารอากาศ และเป็นทีมจากสโมสรสมาชิก
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้นักชกทีมชาติไทยสามารถชกได้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักชกดาวรุ่งมีโอกาสลับหมัดกับรุ่นพี่ทีมชาติ ส่วนในเรื่องของด้านสาธารณสุข ฝ่ายจัดการแข่งขันกำชับให้ปฏิบัติตามนโยบายของ ศบค. อย่างเคร่งครัด เช่น ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเข้ามาในบริเวณการแข่งขัน และมีเจลล้างมือตามจุดต่างๆ รวมถึงมีการวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสนามแข่งขัน
สำหรับเงินรางวัลชนะเลิศ เหรียญทอง 8,000 บาท เหรียญเงิน 6,000 บาท และ เหรียญทองแดง 3,000บาท ส่วนเงินบำรุงทีม ในนามสโมสรทีมละ 15,000 บาท นักชกที่ส่งในนามอิสระ รับคนละ 2,000 บาท ส่วนนักชกยอดเยี่ยม ได้รับ 5,000 บาท
ทั้งนี้ การแข่งขันกีฬามวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ปีนี้จะแข่งขันในวันที่ 16-22 พ.ย.นี้ ที่ศูนย์ฝึกกีฬามวยแห่งชาติมวกเหล็ก จ.สระบุรี โดยแบ่งออกเป็นชาย 6 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 49 กก. ,รุ่น 52 กก. , รุ่น 57 กก. , รุ่น 63 กก. , รุ่น 69 กก. และ รุ่น 75 กก. ขณะที่ หญิง 5 รุ่น ประกอบด้วย รุ่น 48 กก. , รุ่น 51 กก. , รุ่น 57 กก. , รุ่น 60 กก. และ รุ่น 69 กก.